โลกฟุตบอลในยุค 2000 มีไม่กี่คนเท่านั้นที่จะมีทักษะเลี้ยงฟุตบอลได้อย่างคล่องแคล่ว รวดเร็ว และมีเทคนิคที่ดีเยี่ยม 1 ในนั้นจะต้องมีนักฟุตบอลที่ชื่อว่า เอเดน อาซาร์ (Eden Hazard) ปีกในตำนานของทีม ”สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี (Chelsea) เวลาเลี้ยงบอลจี้กองหลังจนหลอกหลังหักไปแล้วหลายคน ถ้าเข้าบอลพรวด หลุดอย่างเดียว สมัยที่ฟอร์มร้อนแรงไม่มีใครเอาชายผู้นี้อยู่ ด้วยส่วนสูงเพียง 175 เซนติเมตรเท่านั้น พอๆกับส่วนสูงของคนเอเชีย แต่ทว่ามีความรวดเร็ว เลี้ยงบอลและมีความเร็วเหมือนกับในหนัง เดอะ แฟลช (The Flash) ของค่าย DC ไม่ได้พูดเกินจริงแต่อย่างใด เพราะต่างมีคลิปการเลี้ยงบอลและการวิ่งรับชมได้ทาง Youtube อยู่ในปัจจุบันนี้
ประวัติส่วนตัว เอเดน อาซาร์

เอเดน มีกาแอล วาลแตร์ อาซาร์ (Eden Michael Walter Hazard) เกิดเมื่อวันที่ 7 มกราคม ค.ศ 1991 ที่เมือง ลา ลูเวียร์เร ประเทศเบลเยี่ยม อาซาร์ เริ่มต้นการเล่นฟุตบอลได้ตอนอายุ 4 ขวบ กับสโมสรบ้านเกิดที่มีชื่อว่า รัวยาลสตาดแบรนัว (Royal Stade Brainois) ในปี 1995 ฝึกฝนฝีเท้าอยู่ตลอด 8 ปี จนผู้ฝึกสอนได้เอ่ยคำว่า อาซาร์คือผู้เล่นที่มีพรสวรรค์ ไม่มีอะไรต้องสอนอีกแล้ว
และในปี 2003 สโมสร ทูบิซ (AFC Tubize) ได้ดึงตัว อาซาร์ เข้ามาร่วมทีมด้วยอายุ 12 ปี ทำผลงานได้โดดเด่น เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม จนกระทั่งปี 2005 สโมสรดังของฝรั่งเศส ลีลล์ (Lille) ได้เซ็นสัญญา อาซาร์ไปร่วมทีมเยาวชนในวัยอายุ 14 ปี ต่อมาในปี 2007 ด้วยวัย 16 ปี อาซาร์ได้ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ เป็นนักเตะอาชืพอย่างเต็มตัว และในปี 2008-09 อาซาร์ก็สามารถคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมลีกเอิงแห่งปีมาได้สำเร็จ
ถือกำเนิด นักฟุตบอลที่เป็นฝันร้ายของกองหลัง

ในฤดูกาล 2009-10 อาซาร์ยังเล่นได้อย่างโดดเด่นและสุดยอดขึ้นไปอีก เหมือนมีแสงติดที่เท้า จนสามารถคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมลีกเอิงแห่งปี มาได้อีกครั้ง ในปี 2010-11 อาซาร์ ก็สามารถพาทีม ลีลล์ คว้าดับเบิ้ลแชมป์ ลีกเอิง (Ligue 1), กุปเดอฟร็องส์ (Coupe de France) แถมยังคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมลีกเอิงแห่งปี มาครอบครองแบบไม่มีข้อสงสัยใด ๆ อาซาร์ ยังทำผลงานในสีเสื้อสโมสร ลีลล์ ได้อย่างยอดเยี่ยมต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลา 5 ฤดูกาล โดยลงเล่นไปทั้งหมด 194 นัด ยิงไป 53 ประตู 53 แอสซิสต์ รวมทุกรายการ และด้วยฟอร์มที่ดีเยี่ยมอย่างสม่ำเสมอทำให้ สโมสร เชลซี (Chelsea) ก็คว้าร่วมทีมด้วยค่าตัว 32 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นค่าตัวที่มีมูลค่าสูงมากในตอนนั้น
กองหลังพรีเมียร์ลีกขวัญเสีย

ในปี 2012 เอเดน อาซาร์ ด้วยวัยเพียง 21 ปี บนเวทีพรีเมียร์ลีก อาซาร์ ได้ฉายแววโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเลี้ยงทะลุทะลวงฝ่าแนวรับคู่แข่ง หรือ แม้กระทั่ง การแอสซิสต์ ให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูได้อย่างสม่ำเสมอ และประตูแรกของ อาซาร์ ก็เกิดขึ้นในนัดพบกับ นิวคาสเซิ่ล (Newcastle United) ด้วยการยิงจุดโทษ และเพียงฤดูกาลแรกในสีเสื้อ สิงห์บลู ก็สามารถคว้า แชมป์ ยูโรป้า ลีก มาได้สำเร็จ
ในเวลาต่อปี 2014-15 อาซาร์ ก็ช่วยให้ เชลซี คว้าดับเบิ้ลแชมป์ พรีเมียร์ลีก (Premier League), ลีก คัพ (League Cup) และยังคว้า นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ (PFA) มาครองด้วยสถิติ ยิงไป 19 ประตู 11 แอสซิสต์ รวมทุกรายการ หลังจากนั้น อาซาร์ ก็เป็นกำลังหลักให้กับเชลซี ไปถึงปี 2019 สโมสรยักษ์ใหญ่ของ สเปน อย่าง เรอัล มาดริด (Real Madrid) ก็คว้าตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 88.5 ล้านปอนด์ ไปในท้ายที่สุด
ความล้มเหลวที่สเปนและอาการบาดเจ็บ

การมาเล่นใน ลาลีก้า สเปน ให้กับ ราชันย์ชุดขาว ในปี 2019 เป็นที่คาดหวังของแฟนบอลเป็นอย่างมาก ได้รับหมายเลข 7 เพื่อนแทนที่ คริสเตียโน โรนัลโด้ (Cristiano Ronaldo) อีกทั้งยังได้รับค่าเหนื่อยอยู่ที่ 600,000 ยูโรต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นค่าเหนื่อยที่มากที่สุดของสโมสร เรอัล มาดริด แต่แฟนบอลและกองเชียร์ทั่วโลกก็ต้องผิดหวัง เนื่องจากปัญหาบาดเจ็บที่เข้ามาอยู่ตลอด
ทำให้หลายฝ่ายมองว่า ไม่คุ้มค่าที่เสียเงินไป เจ็บซ้ำซาก หายแล้วลงเล่นได้เพียงไม่นานก็ต้องรักษา 2 สัปดาห์ หรือ 3 สัปดาห์ อยู่ตลอดเวลา จึงทำให้ไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งกลับมาได้อีก ตลอดระยะเวลา 4 ฤดูกาล ลงเล่นไปเพียง 76 นัดเท่านั้นแถมยังไม่ครบ 90 นาทีอีกหลายนัดด้วย และในวันที่ 4 มิถุนายน 2023 ทางสโมสร เรอัล มาดริด ก็ประกาศยกเลิกสัญญา อาซาร์ แม้ว่าในสัญญาจะเหลืออีก 1 ปี ทำให้ อาซาร์ กลายเป็นนักเตะไร้สังกัด จนกระทั่งในวันที่ 10 ตุลาคม 2566 เอเดน อาซาร์ ก็ประกาศเลิกเล่นอย่างเป็นทางการด้วยอายุ 32 ปี เท่านั้น จบอาชืพการเป็นนักฟุตบอล
เกียรติประวัติ

ลีลล์
ลีกเอิง
แชมป์: 2010-11
กุปเดอฟร็องส์
แชมป์: 2010-11
เชลซี
พรีเมียร์ลีก
แชมป์: 2014-15, 2016-17
เอฟเอคัพ
แชมป์: 2017-18
ลีกคัพ
แชมป์: 2014-15
ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก
แชมป์: 2012-13, 2018-19
เรอัล มาดริด
ลาลีก้า
แชมป์: 2019-20, 2021-22
โกปา เดล เรย์
แชมป์: 2022-23
ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา
แชมป์: 2021-22
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
แชมป์: 2021-22
ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ
แชมป์: 2022
ทีมชาติเบลเยี่ยม

ฟุตบอลโลก 2018 อันดับที่ 3
รางวัลส่วนบุคคล

ดาวรุ่งยอดเยี่ยมลีกเอิงแห่งปี 2008-09, 2009-10
นักเตะยอดเยี่ยมลีกเอิงแห่งปี 2010-11, 2011-12
นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก 2013-14
นักเตะยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกปี 2014-15
นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ (PFA) 2014-15
นักเตะยอดเยี่ยมเบลเยี่ยม 2017, 2018 , 2019