ในชั่วโมงนี้นักเตะที่พูดถึงกันมากที่สุด และด้วยฟอร์มที่ร้อนแรง หลังจากย้ายไปร่วมทีม ราชันย์ชุดขาว เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมและทำประตูชัยในช่วงท้ายเกมได้บ่อยครั้ง ชายผู้มีอายุเพียง 20 ปี นั่นก็คือ จู๊ด เบลลิงแฮม (Jude Bellingham) ด้วยอายุยังไม่มากแต่ขึ้นชื่อว่าระดับโลกไปแล้ว ยักษ์ใหญ่หลายสโมสรในยุโรปต่างอยากได้ลายเซ็นไปร่วมทีม แต่ทว่าเจ้าตัวเพื่งตัดสินใจย้ายมาเล่นให้กับ เรอัล มาดริด (Real Madrid) ในช่วงเปิดฤดูกาล 2023 ที่ผ่านมา ทำให้หลายทีมต่างอกหัก และแฟนบอลมาดริด ก็ไม่ผิดหวังหลังจากโชว์ฟอร์มไป 9 นัด ช่วยให้ มาดริด นำจ่าฝูง ลาลีก้า สเปน อยู่ในขณะนี้
ประวัติส่วนตัว จู๊ด เบลลิงแฮม

จู๊ด เบลลิงแฮม (Jude Bellingham) เกิดเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ค.ศ 2003 ที่เมือง สเตาร์บริดจ์ ประเทศ อังกฤษ เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่ยังเด็กและมีโอกาสเข้าร่วมทีมเยาวชนสโมสร เบอร์มิงแฮม (Birmingham) ในปี 2010 รุ่นอายุต่ำกว่า 8 ขวบ ฝึกฝนฝีเท้าอยู่ในทีมเยาวชนอยู่ 8 ปี จนเมื่ออายุ 16 ปี ก็สามารถเซ็นสัญญาอาชืพขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ เบอร์มิงแฮม ได้เป็นผลสำเร็จ
และในฤดูกาล 2019-20 การแข่งขัน แชมเปี้ยนส์ชิพ (EFL Championship) เป็นลีกรองจาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้เปิดฉากขึ้น จู๊ด ซึ่งได้รับเสื้อหมายเลข 22 เล่นในตำแหน่งปีกซ้ายในช่วงแรก หลังจากนั้นก็ไปเล่นมิดฟิลด์ตัวกลาง และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จึงทำให้ทีมยักษ์ใหญ่พรีเมียร์ลีก ต่างเฝ้าดูฟอร์มการเล่น และพร้อมที่จะดึงไปร่วมทีมในช่วงตลาดซื้อขายเดือนมกราคมปี 2020
แต่ถูกสโมสรปฎิเสธข้อเสนอทั้งหมด จู๊ดจึงต้องอยู่ช่วยสโมสรจนจบฤดูกาล และสามารถช่วยให้ทีมรอดตกชั้น ได้สำเร็จใน ฤดูกาล 2019-20 ด้วยอันดับที่ 20 ห่างจากอันดับ 21 ที่ตกชั้นอย่าง บาร์นสลี่ย์ เพียง 1 คะแนนเท่านั้น
นั่นทำให้ทางสโมสรประกาศอย่างเป็นทางการว่า ”สโมสรรีไทร์เบอร์เสื้อ 22 ที่จู๊ด สวมใส่เพื่อจดจำว่าเขาคือผลผลิตและยังสร้างแรงบันดาลใจกับคนอื่น” หลังจากนั้นก็มีความเห็นต่างๆมากมายจากแฟนบอล เบอร์มิงแฮม ว่าไม่ควรต้องรีไทร์เสื้อเพราะ จู๊ดเล่นไปเพียง 44 นัดรวมทุกรายการให้กับสโมสรเท่านั้น
ลุยบุนเดสลีก้าเพื่อทำลายสถิติ

หลังสิ้นสุดฤดูกาล 2019-2020 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (Borussia Dortmund) สโมสรยักษ์ใหญ่ บุนเดสลีก้า เยอรมัน ก็ตัดสินใจคว้าตัว จู๊ด ไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ ในปี 2020 ซึ่งเป็นค่าตัวที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วยวัยเพียง 17 ปี และ จู๊ด ก็ได้รับโอกาสลงสนามครั้งแรกในฟุตบอลถ้วย เดเอฟเบ โพคาล (DFB-Pokal) ในการพบกับ ดุ๊ยส์บวร์ก (MSV Duisburg) สามารถยิงประตูแรกได้ทันทีทำลายสถิติอายุน้อยที่สุดของสโมสรที่ทำประตูได้ด้วยวัย 17 ปี กับ 77 วัน
หลังจากนั้นก็ได้รับโอกาสลงสนามฟุตบอลถ้วยใหญ่ของยุโรป ในศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก (UEFA Champions League) ในเกมพบ ลาซิโอ (Lazio) จากกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ซึ่งอยู่ร่วมสาย F ในกลุ่มเดียวกัน ทำลายสถิติเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในศึก UCL ไปได้อีกครั้ง
โดยเจ้าของสถิติเดิมก็คือ ฟิล โฟเดน (Phil Foden) เพื่อนร่วมชาติอังกฤษจาก สโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) ที่ทำไว้ โดยจบฤดูกาลแรกที่ย้ายมาร่วมทีม เสือเหลือง ก็สามารถคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล เป็นแชมป์แรกให้กับตนเองในอาชืพได้สำเร็จ และลงสนามเป็นกำลังสำคัญช่วยดอร์ทมุนด์อย่างสม่ำเสมอถึงปี 2023
พรีเมียร์ลีกอกหักตัดสินใจไปลาลีก้า

จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2023 ทางสโมสรยักษ์ใหญ่ ลาลีก้า สเปน อย่าง เรอัล มาดริด ก็ประกาศคว้าตัว จู๊ด เบลลิงแฮม วัย 19 ปี ไปร่วมทีมเป็นสถิติโลก ด้วยค่าตัวสูงถึง 115 ล้านปอนด์ สัญญา 6 ปี ทำให้หลายทีมดังของพรีเมียร์ลีกต่างพากันอกหักไม่ว่าจะเป็นทีม ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โดยจู๊ด เลือกที่จะย้ายไปลาลีก้า สเปนให้เหตุผลว่า ”ผมอยู่ในสนามรอบชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2022 เมื่อเรอัล มาดริด เอาชนะ ลิเวอร์พูล นั่นคือเหตุผลสำคัญ และมีหลายอย่างที่นำไปสู่การตัดสินใจเข้าร่วมสโมสรนี้” และจุดนี้เองทำให้หลายสโมสรในพรีเมียร์ลีกต่างพากันอกหัก
โดยเฉพาะลิเวอร์พูล ที่คำพูดให้สัมภาษณ์ แฟนบอลหลายคนต่างเกลียดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภายใต้ผู้จัดการทีม คาร์โล อันเชล็อตติ (Carlo Ancelotti) จู๊ด ก็สามารถทำประตูในการเปิดตัวได้สำเร็จในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกในการพบกับ ยูเนี่ยน เบอร์ลิน (FC Union Berlin) และเป็นประตูชัยด้วยสกอร์ 1-0 ช่วยให้คว้า 3 คะแนนในรอบแบ่งกลุ่มได้สำเร็จ
และในปัจจุบันนี้ทั้งยิงและจ่ายให้กับต้นสังกัด ราชันย์ชุดขาว ช่วยให้นำจ่าฝูง ลาลีก้า สเปน เป็นที่รักของเพื่อนร่วมทีมและแฟนบอลไปเป็นที่เรียบร้อย
หัวใจในแดนกลางทีมชาติอังกฤษ

จู๊ด เบลลิงแฮม ติดทีมชาติอังกฤษตั้งแต่รุ่น U15, U16, U17, U21, และในปัจจุบันทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ จู๊ด มีส่วนสำคัญที่ช่วยอังกฤษ ไปฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศ กาตาร์ เป็นกำลังหลักสำคัญในแดนกลางที่ไม่สามารถขาดไปได้เลย ปัจจุบันพาอังกฤษไปเล่น ยูโร 2024 ได้สำเร็จแล้ว ด้วยวัยเพียง 20 ปี เท่านั้น แต่ทั่วโลกต่างให้การยอมรับในฝีเท้าและมั่นใจว่ายังเก่งกว่านี้ได้อีกหลายปีเลยทีเดียว
เกียรติประวัติ

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
เดเอฟเบ โพคาล
แชมป์: 2020-21
ทีมชาติอังกฤษ
ยูโร 2020
รองแชมป์: 2020
รางวัลส่วนบุคคล

นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแชมเปี้ยนส์ชิพ อังกฤษ 2019-20
นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีบุนเดสลีก้า 2022-23